เลือก ทรายแมว อย่างไรให้ถูกใจแมว

   ทรายแมว อาจดูเป็นเรื่องง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน…ที่ไม่ง่ายอย่างที่คิด ! เพราะทรายแมวไม่ได้มีไว้ให้แมวกลบมูลหรือทำให้แมวขับถ่ายเป็นที่เป็นทางเท่านั้น แต่เป็นเรื่องที่ส่งผลต่อพฤติกรรม สุขภาพจิต และส่งผลต่อการตอบสนองตามสัญชาตญาณที่มีความละเอียดอ่อนมาก ชวนทาสแมวมาทำความเข้าใจ และเลือก ทรายแมว ให้ถูกใจน้องแมวของคุณกันเถอะ

วิธีเลือก ทรายแมว

ทรายแมว มีความสำคัญอย่างไร

   อย่างที่เราเคยได้กล่าวถึงไปในหัวข้อเรื่อง กระบะทรายแมว จะเห็นได้ว่าการขับถ่ายของแมวนั้นมีความสำคัญมาก ไม่เพียงแต่เป็นการปลดปล่อยของเสียออกจากร่างกายเท่านั้น แต่มีความสำคัญในเรื่องของการตอบสนองตามสัญชาตญาณอย่างการทำอาณาเขตอีกด้วย

ทรายแมว นั้นมีความสำคัญกับแมวมาก เป็นตัวช่วยให้แมวขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง แมวส่วนใหญ่จะรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าจุดที่มีทรายแมวคือจุดที่ขับถ่ายได้ นอกจากนี้แมวยังกลบมูลของตัวเองตามหลังการปล่อยของเสีย เพื่อกลบกลิ่นไม่ให้ศัตรูนักล่าอื่น ๆ แกะรอยเจอได้ และไม่ให้เหยื่อของมันรู้ตัวนั่นเอง

เมื่อแมวป่าพัฒนามาเป็นแมวบ้าน สัญชาตญาณของแมวก็ไม่ได้หายไปไหน ยังคงอยู่ในตัวแมวอย่างตนบถ้วน แม้จะไม่มีนักล่ามาทำอันตรายหรือเหยื่อให้ต้องออกล่าแล้ว แต่แมวก็ยังมีความต้องการที่จะแสดงพฤติกรรมเหล่านี้ออกมาอยู่ดี มีงานวิจัยระบุว่าหากแมวไม่สามารถกลบของเสียของตัวเองได้ จะทำให้แมวมีความเครียดมากขึ้น อาจทำให้เกิดโรควิตกกังวล (Anxiety disorder) ในแมวได้อีกด้วย

ทรายแมว มี่กี่ประเภท

1. ทรายดินแบบไม่จับตัวเป็นก้อน (Non-clumping clay litter)

ปัจจุบันไม่ค่อยเป็นที่นิยม จึงพบได้น้อยกว่าประเภทอื่น เป็นทรายแมวชนิดแรก ๆ ที่ผลิตออกมาสำหรับแมว

ทรายชนิดนี้เมื่อโดนของเหลวจะไม่จับตัวเป็นก้อน แต่มีคุณสมบัติดูดซับของเหลวได้ดี ทำให้ไม่มีของเหลวกองที่ก้นกระบะทราย ลดการเกิดกลิ่นได้

ข้อดี

  • ดูดซับกลิ่นได้ดี

ข้อเสีย

  • มีน้ำหนักมาก
  • ตักทรายที่เลอะปัสสาวะออกยาก จึงควรเปลี่ยนทรายทั้งกระบะ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์
  • มีฝุ่นค่อนข้างมาก
  • หากแมวกินเข้าไปอาจเป็นอันตรายได้
กระบะทรายแมวแบบเปิดโล่ง

2. ทรายเบนโทไนท์/ทรายภูเขาไฟ (Clay litter)

ใช้วัตถุดิบจากเหมืองผิวดิน (Strip mine) หรือเรียกอีกอย่างว่าเหมืองเปิด คือ การขุดเหมืองแบบเอาหน้าดินที่ไม่ต้องการออก แล้วขุดไปจนกว่าจะเจอแร่ ซึ่งวิธีแบบนี้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์มากกว่าการขุดเจาะด้วยอุโมงค์แบบปกติ โดยทรายเบนโทไนท์ที่คุณภาพดีมักจะใช้ชื่อเรียกว่า ทรายภูเขาไฟ แท้จริงแล้วทำมาจากแร่ตัวเดียวกัน เพียงแต่ความบริสุทธิ์ของแร่มีมากกว่าและใช้สารเคมีน้อยกว่า

ข้อดี

  • จับตัวเป็นก้อนได้ดี
  • เก็บกลิ่นได้ดี
  • ใช้กับห้องน้ำอัตโนมัติได้ดี

ข้อเสีย

  • มีน้ำหนักมาก
  • ติดเท้าแมวออกมานอกกระบะมาก
  • ส่วนใหญ่มีฝุ่นค่อนข้างมาก
  • ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิต
  • ต้องทิ้งลงถังขยะ ไม่สามารถย่อยสลายได้
  • หากแมวกินเข้าไปอาจเป็นอันตรายได้
ทรายแมว ภูเขาไฟ

3. ทรายคริสตัล (Silica gel litter), ทรายแมว แบบมีรูพรุนให้ของเหลวไหลผ่านลงด้านล่าง

ผลิตมาจากแร่ซิลิกาจากทราย ทรายแมวชนิดนี้จะไม่จับตัวเป็นก้อน แต่ของเหลวจะไหลลงด้านล่างแทน บางแบรนด์ใช้เทคโนโลยีใหม่มาผสมกับแร่ซิลิกาดั้งเดิม และออกแบบให้ใช้แผ่นรองปัสสาวะควบคู่ด้วย เพื่อความง่ายต่อการสังเกตสีปัสสาวะ และการทำความสะอาด

ข้อดี

  • เก็บกลิ่นปัสสาวะได้ดี
  • ไม่มีฝุ่น
  • สังเกตสีปัสสาวะง่าย

ข้อเสีย

  • เม็ดค่อนข้างใหญ่และผิวสัมผัสค่อนข้างหยาบมาก ทำให้ระคายเคืองเท้าแมวได้ง่าย บางตัวอาจไม่ยอมใช้
  • ไม่จับตัวเป็นก้อน ตักทิ้งลำบาก
  • หากแมวกินเข้าไปอาจเป็นอันตรายได้

* ไม่ควรล้างแล้วนำกลับมาใช้ซ้ำ *

ทรายแมว คริสตัล

4. ทรายที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ (Natural cat litter)

มีทั้งแบบจับตัวเป็นก้อนและไม่จับตัวเป็นก้อน ใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น ไม้สน ไม้เบิร์ส, กากถั่วเหลือง, หญ้า, ข้าวโพด, มันสัมปะหลัง, มะพร้าว, กระดาษ ซึ่งมีทั้งแบบกลิ่นธรรมชาติและแต่งกลิ่นเพิ่มเติม

ข้อดี

  • ปลอดภัยกับแมวแม้เผลอกินเข้าไป
  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • ตักทิ้งชักโครกได้ เหมาะกับเลี้ยงในคอนโดหรือพื้นที่จำกัด*

ข้อเสีย

  • ใช้ความระมัดระวังในแมวที่แพ้วัสดุธรรมชาติบางชนิด
  • ทำความสะอาดและตรวจสอบเป็นประจำ สามารถพบเชื้อราได้ในบางชนิด หากไม่ทำความสะอาดเป็นประจำ

*การทิ้งทรายแมวไม่ควรทิ้งลงโถสุขภัณฑ์​ แม้ว่าทรายแมวชนิดนั้นจะถูกออกแบบมาให้ละลายน้ำได้ก็ตาม

ทรายแมวแบบเต้าหู้

ปริมาณ ทรายแมว ที่แนะนำ

โดยทั่วไปควรเททรายให้มีความหนาอย่างน้อย 3-6 เซนติเมตร แต่ก็ขึ้นกับความชอบของแมวแต่ละตัว โดยเฉพาะแมวเด็กมักมีพฤติกรรมชอบขุดทรายจำนวนมาก อาจเททรายให้หนาขึ้นได้ เจ้าของควรสังเกตความชอบของแมวของคุณและปรับตามความเหมาะสม แต่ไม่ควรเหลือทรายน้อยจนเกินไป จะทำให้แมวรู้สึกไม่สะอาด ไม่สามารถกลบมูลได้มิด และไม่ยอมใช้กระบะทรายได้

สิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อเลือก ทรายแมว

การเลือกทรายแมวมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง สามารถมีผลต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจของแมวได้ เจ้าของจึงควรสังเกตพฤติกรรม-ความชอบของแมวตัวเอง และปรับไปตามความชอบของแมว หากเลือกทรายแมวที่ไม่เหมาะกับน้องแมวของเราแล้ว ก็อาจทำให้เกิดปัญหา แมวทำธุระนอกกระบะ ขึ้นได้

1. ขนาดเม็ดทราย

ทรายที่มีขนาดเม็ดใหญ่จะทำให้แมวรู้สึกไม่สบายเท้า อุ้งเท้าแมวสามารถรับสัมผัสได้ไวและบอบบางมาก ทรายเม็ดใหญ่จะทำให้การเดินบนทราย-การขุด-การกลบทำได้ลำบากกว่า โดยเฉพาะแมวสูงอายุที่เริ่มมีปัญหาข้อเสื่อมหรือเดินลำบาก การเลือกทรายเม็ดใหญ่จะทำให้ต้องเกร็งกล้ามเนื้อ ส่งผลให้ข้อต่าง ๆ รับภาระหนักขึ้น ทำให้แมวมีอาการปวดรุนแรงขึ้น ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แมวเลิกใช้กระบะทรายก็เป็นได้ นอกจากนี้ทรายแมวที่มีขนาดเม็ดใหญ่มักจะจับตัวกับอุจจาระไม่ค่อยดี ทำให้กลบกลิ่นอุจจาระได้ไม่ค่อยดีอีกด้วย

ปัจจัยการเลือก ทรายแมว

2. กลิ่น

แมวมีจำนวนเซลล์รับกลิ่นมากกว่ามนุษย์ถึง 14 เท่า …แม้แมวจะมีการรับกลิ่นไม่ดีเท่าสุนัขก็ตาม แต่ก็ดีกว่ามนุษย์อย่างแน่นอน! กลิ่นทรายแมวที่คนอาจรู้สึกว่าหอม หรือเป็นเพียงกลิ่นอ่อน ๆ ในมุมมองของแมวอาจเป็นกลิ่นที่ฉุนเกินไป (เปรียบเหมือนคนฉีดน้ำหอมหมดขวด) ซึ่งก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้แมวปฏิเสธการใช้กระบะทรายได้เช่นกัน เราจึงขอแนะนำให้เลือกทรายที่ไม่มีกลิ่น หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ แนะนำให้เปิดปากถุงทรายทิ้งไว้เพื่อให้กลิ่นจางก่อนนำมาใช้งาน

3. ฝุ่น

ทรายแมวที่ฝุ่นฟุ้งกระจายเยอะเป็นอุปสรรคต่อการใช้งานทั้งคนและแมว อาจทำให้ระคายเคืองทางเดินหายใจ-ระคายเคืองดวงตาได้ง่าย และสามารถกระตุ้นอาการภูมิแพ้/หอบหืดทั้งคนและแมวได้ จึงควรเลือกทรายแมวที่มีฝุ่นน้อยที่สุด

4. ความสามารถในการจับตัวเป็นก้อน

เพื่อให้ง่ายต่อการตักทำความสะอาด และช่วยให้ปัสสาวะไม่ไหลเลอะเทอะจนสกปรกไปทั้งกระบะทราย แมวเป็นสัตว์รักความสะอาด หากกระบะสกปรก หรือมีกลิ่นมูลฉุน ๆ เหลือทิ้งไว้ก็อาจทำให้แมวไม่ยอมเข้ากระบะทรายได้

5. สีของทรายแมว

แนะนำให้เลือกใช้ทรายที่มีสีอ่อนหรือสีขาว สามารถช่วยให้สังเกตสีของปัสสาวะได้ง่าย ทำให้พบความผิดปกติได้รวดเร็วหากแมวมีสีปัสสาวะเปลี่ยนไป เช่น ปัสสาวะมีสีชมพูเกิดจากมีเลือดปน การใช้ทรายสีเข้มอาจทำให้สังเกตความผิดปกติได้ยากและล่าช้าได้

6. การติดเท้าแมว

เน้นทรายที่ติดเท้าแมวออกมาน้อยจะส่งผลดีในแง่ของการลดการกระจายเชื้อโรคสู่มนุษย์ และเก็บกวาดทำความสะอาดง่าย

ใช้ทรายก่อสร้างได้หรือไม่

เราไม่แนะนำให้ใช้ทรายก่อสร้าง เนื่องจากทรายก่อสร้างมักจะมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนได้มาก เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ, ไม่จับตัวเป็นก้อน ทำความสะอาดยาก ตักของเสียทิ้งลำบาก, เก็บกลิ่นไม่ดี และมีฝุ่นเยอะมาก

ฝึกแมวใช้โถสุขภัณฑ์มนุษย์…ดีไหม!?

ยังไม่มีการศึกษาถึงผลกระทบของการฝึกแมวใช้โถสุขภัณฑ์อย่างจริงจังว่าจะส่งผลทำให้แมวเครียดหรือไม่…แต่เราไม่แนะนำให้ทำเป็นอย่างยิ่ง!

  • สะดวกเจ้าของ…แต่ผิดธรรมชาติของแมว : อย่าลืมว่าแมวชอบกลบของเสียตามสัญชาตญาณมาช้านานแล้ว การที่แมวไม่ได้กลบก็มีโอกาสกระตุ้นความเครียด/รู้สึกไม่ปลอดภัย/วิตกกังวลได้
  • ทำให้สังเกตปัสสาวะ-อุจจาระไม่ได้ : หากแมวป่วยจะเจอความผิดปกติช้า และได้รับการรักษาล่าช้า
  • การจราจรไม่ดี : ห้องน้ำคน 1 ห้อง นับเป็นแค่กระบะทราย 1 อันเท่านั้น! นอกจากจะต้องแย่งใช้กับเพื่อนแมวด้วยกันแล้ว ยังต้องมาแย่งใช้กับคนอีก
  • ต้องกระโดดเพื่อใช้งาน : เมื่อแมวแก่ตัวหรือเริ่มมีโรคข้อกระดูกเสื่อม จะทำให้ใช้งานได้ยาก สุดท้ายแมวอาจมีปัญหาขับถ่ายไม่เป็นที่ตามมา
  • เสี่ยงอุบัติเหตุ : แมวอาจพลาด พลัดตกลงไปในโถสุขภัณฑ์ อาจบาดเจ็บ หรือเข็ดขยาดกับการใช้ห้องน้ำไปเลย
  • พาแมวไปนอกสถานที่หรือพักโรงแรมไม่ได้ : เพราะแมวไม่ได้ถูกฝึกให้ใช้กระบะทราย

สรุป

   ทรายแมวเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งที่ส่งผลต่อการใช้งานกระบะทรายของแมว ซึ่งแมวแต่ละตัวก็มีความชอบที่แตกต่างกัน เจ้าของควรสังเกตแมวอย่างใกล้ชิด ดูพฤติกรรม ความชอบ และเลือกใช้ชนิดของทรายแมวให้เหมาะสม พิจารณาปัจจัยทุกข้อก่อนเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นขนาดเม็ดทราย กลิ่น ฝุ่น สี ความสามารถการจับตัวเป็นก้อน และการติดเท้าแมว การใช้ทรายแมวที่ดีและได้มาตรฐานย่อมสนับสนุนสุขภาพที่ดีของแมว ลดโอกาสการติดเชื้อ และทำให้แมวได้ตอบสนองสัญชาตญาณในแบบของแมวได้อย่างเป็นธรรมชาติ

” สนใจเข้าพักกับ โรงแรมแมว ของเราอยู่หรือเปล่า !? “

haru-cat-hotel-logo

© All Rights Reserved.

เทคนิคเลือก กระบะทราย ให้เหมาะกับแมว

   กระบะทราย ไม่เพียงแค่เป็นที่ไว้ขับถ่ายสำหรับแมวเท่านั้น ยังเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญ…อาจจะเรียกได้ว่าสำคัญที่สุดเลยก็เป็นได้ ! การเลือก กระบะทราย ให้เหมาะสมกับน้องแมวของเรา นอกจากจะช่วยลดปัญหาพฤติกรรมที่พบบ่อยอย่างการขับถ่ายนอกกระบะทรายแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจ และบุกคลิกของแมวอีกด้วย มันมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรนะ…ไปดูกันเลย

การเลือก กระบะทราย แมว

ความสำคัญของ กระบะทราย

แมวเป็นสัตว์ที่อยู่ตรงกลางของห่วงโซ่อาหาร…รับบทเป็นทั้งผู้ล่า และผู้ถูกล่าในเวลาเดียวกัน แมวเป็นสัตว์กินเนื้อที่มีพฤติกรรมการล่าเหยื่อเพียงลำพัง พวกมันจะไม่ออกล่าเป็นฝูงโดยเด็ดขาด แมวจึงเป็นสัตว์ที่มีอาณาเขตของใครของมัน

การอุจจาระของแมวมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในอุจจาระของแมวจะมีฟีโรโมนซึ่งเป็นกลิ่นเฉพาะของแมวแต่ละตัวอยู่ด้วย พวกแมวจะใช้กลิ่นฟีโรโมนเหล่านี้ในการสื่อสารทางอ้อมระหว่างกันและกัน ไม่ให้แมวตัวอื่นมายุ่มย่ามที่อาณาเขตของตน และพวกมันก็พร้อมที่จะต่อสู้หากมีผู้บุกรุกอีกด้วย

แต่ในขณะเดียวกัน…ด้วยความที่แมวก็ตกเป็นเหยื่อของนักล่าที่มีขนาดตัวใหญ่กว่า พวกมันจึงต้องการพื้นที่ที่เหมาะสม สามารถใช้ดินหรือทรายกลบกลิ่นตามหลังการอุจจาระได้ เพื่อกลบร่องรอยของตัวเองจากนักล่าที่อาจเป็นอันตรายเช่นกัน แม้แมวจะกลายมาเป็นแมวบ้านที่ไม่ต้องถูกล่าด้วยนักล่าขนาดใหญ่แล้วก็ตาม แต่สัญชาตญาณเหล่านี้ก็ยังคงสืบทอดอยู่ในรหัสพันธุกรรมแมวอย่างครบถ้วน

กระบะทราย สำหรับแมวนั้นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง หากแมวไม่สามารถใช้กระบะทรายได้อย่างสบายใจ หรือมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ ย่อมนำมาสู่ปัญหาพฤติกรรม และก่อให้เกิดความเครียดตามมาได้

กระบะทราย มี่กี่แบบ?

1. แบบเปิดโล่ง...คลาสสิคตลอดกาล

ข้อดี

    • แมวทุกเพศทุกวัยส่วนมากชอบใช้กระบะประเภทนี้
    • เหมาะกับบ้านที่เลี้ยงแมวหลายตัวและมีพฤติกรรมซุ่มโจมตีแมวตัวที่กำลังเข้ากระบะอยู่ เนื่องจากแบบเปิดโล่งมีทางเข้าออก และทางหนีให้แมวออกได้หลายทาง ช่วยลดปัญหาแมวไม่ยอมใช้กระบะทรายเนื่องจากโดนรังแกจากแมวตัวอื่นได้
    • ราคาถูก หาซื้อได้ง่าย ประยุกต์ใช้งานได้ง่าย

ข้อเสีย

    • เก็บกลิ่นได้ไม่ค่อยดี
    • ทรายแมวกระจายออกมาปนเปื้อนสิ่งแวดล้อมได้ง่าย
    • ภาพอาจไม่สวยงาม ไม่น่าชม
กระบะทรายแมวแบบเปิดโล่ง

2. แบบเปิดโล่งแต่มีขอบสูง

ข้อดี

    • มีข้อดีเหมือนกระบะแบบเปิดโล่ง และลดการกระจายของทรายแมวได้มากขึ้น

ข้อเสีย

    • เก็บกลิ่นได้ไม่ค่อยดี
    • หากทางเข้าสูงเท่าขอบโดยรอบ จะไม่ค่อยเหมาะกับแมวสูงวัยที่มีภาวะข้อเข่าเสื่อม
    • ขอบที่สูงขึ้นมาอาจทำให้แมวบางตัวรู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะใช้กระบะทราย เนื่องจากทัศนวิสัยไม่ดี ไม่สามารถเห็นสถานการณ์โดยรอบได้อย่างทั่วถึง

คำแนะนำ:  ความสูงขอบโดยรอบไม่ควรสูงเกินกว่าความสูงของแมว

กระบะทรายขอบสูง

3. แบบโดม/มีฝาปิด

ข้อดี

    • เก็บกลิ่นได้ดีกว่ากระบะทรายแบบเปิด
    • ลดการกระจายของทรายแมวได้ดีขึ้น
    • ดูสะอาดตามากขึ้น

ข้อเสีย

    • ไม่เหมาะกับแมวสูงวัยที่มีภาวะข้อเข่าเสื่อม
    • ทัศนวิสัยของแมวขณะใช้กระบะไม่ค่อยดี
    • ทางเข้าออกมีทางเดียว อาจทำให้แมวบางตัวไม่ยอมใช้ หากโดนซุ่มโจมตีจากแมวตัวอื่นจะไม่มีทางหนี เพิ่มโอกาสการทะเลาะกันระหว่างแมวได้

คำแนะนำ: แบบโดมมักมีประตูใสติดอยู่ที่ทางเข้าออก แนะนำให้นำประตูใสออก เพื่อให้แมวกล้าใช้ และสะดวกสบายในการเข้ากระบะทรายมากขึ้น หากแมวยังคงไม่ยอมใช้กระบะ ให้นำฝาครอบออกเพื่อเปลี่ยนเป็นกระบะแบบเปิดโล่งแทน

กระบะทรายแบบโดม

4. แบบอัตโนมัติ

ข้อดี

    • ให้ความสะดวกสบายแก่เจ้าของ ไม่ต้องคอยตักของเสียออกทุกวัน และเก็บกลิ่นได้ค่อนข้างดี
    • มีตัวเลือกการใช้งานหลากหลาย สามารถบันทึกข้อมูลแมว, จำนวนการใช้งาน, ระยะเวลาการใช้ในแต่ละครั้ง ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานเหล่านี้ขึ้นกับแบรนด์ที่คุณเลือกใช้ ควรศึกษาให้ดีก่อนเลือกใช้
    • ข้อมูลสามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือได้

ข้อเสีย

    • ข้อเสียเช่นเดียวกับกระบะทรายแบบโดม
    • บางเครื่องจำกัดการใช้กับทรายแมวบางประเภทเท่านั้น
    • มีราคาแพง แบบอัตโนมัติ 1 เครื่องก็ยังนับว่าเป็นกระบะทราย 1 อันเท่าเดิม หากมีแมวหลายตัวก็ควรมีหลายเครื่อง หรือวางกระบะธรรมดาเสริมด้วย
    • สังเกตอุจจาระและปัสสาวะของแมวได้ไม่ดีนัก หากมีปัญหาเจ็บป่วย/ความปิดปกติ อาจสังเกตพบได้ล่าช้า
    • เครื่องจักรอาจทำงานผิดพลาดได้ง่าย 

ข้อควรระวัง: ควรศึกษาข้อมูลความปลอดภัยต่าง ๆ ก่อนเลือกซื้อ และหมั่นบำรุงรักษาอยู่สม่ำเสมอ เช่น ระบบการตรวจจับแมว เซนเซอร์น้ำหนัก ระบบความปลอดภัยขณะเครื่องหมุนตักสิ่งสกปรก เป็นต้น

กระบะทรายแมวอัตโนมัติ

Q : แบบเปิดโล่งดีที่สุด...จริงไหม?

มีงานวิจัยมากมายได้พยายามทดลองสมมติฐานดังกล่าว ผลส่วนใหญ่พบว่า แมวเลือกทั้งกระบะทรายแบบเปิดโล่ง และแบบโดมพอ ๆ กัน ไม่ได้มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยจะพบว่ามีแมวเพียงบางตัวเท่านั้นที่เลือกแบบใดแบบหนึ่งเป็นพิเศษ ซึ่งขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแมว

โดยสรุปอาจกล่าวได้ว่า แมวแต่ละตัวมีลักษณะนิสัยและความชอบแตกต่างกัน หากเจ้าของอยากทราบว่าแมวของเราชอบอะไรมากที่สุด เราขอแนะนำให้วางกระบะทรายทั้งสองแบบแล้วเปรียบเทียบการใช้งานดูจะดีที่สุดนะ !

จำนวน กระบะทราย ที่เหมาะสม

กระบะทรายควรมีจำนวน = N + 1 กระบะเป็นอย่างน้อย

โดย N คือ จำนวนของแมว หรือแมวที่อยู่ในกลุ่มสังคมเดียวกัน

ตัวอย่าง: หากมีแมว 3 ตัวภายในบ้าน ควรมีกระบะทรายอย่างน้อย 4 กระบะ

"แมวใช้กระบะทรายด้วยกันไม่ได้เหรอ? "

คงเป็นเป็นถามที่หลาย ๆ เกิดความสงสัยขึ้นมา… วันนี้เรามาชวนหาคำตอบไปด้วยกัน

โดยธรรมชาติแล้ว แมวเป็นสัตว์มีอาณาเขต เป็นนักล่าที่ออกล่าเพียงลำพัง พวกมันทำแบบนี้มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษเป็นเวลากว่า 10,000 ปีมาแล้ว แม้จะกลายมาเป็นแมวบ้านถูกเลี้ยงโดยมนุษย์ก็ตาม ทั้งรหัสพันธุกรรมและสัญชาตญาณของแมวยังคงเหมือนเมื่อหมื่นปีที่แล้วอย่างครบถ้วน

เมื่อสังคมมนุษย์เกิดขึ้น และมนุษย์เริ่มรู้จักทำการเกษตร มีการเก็บเกี่ยวและจัดเก็บธัญพืชแม้ในฤดูที่ไม่สามารถเพาะปลูกได้อย่างฤดูหนาว สัตว์ฟันแทะจำนวนมากจึงได้เข้ามาขโมยพืชผลทางการเกษตรของมนุษย์ และเมื่อสัตว์เหล่านี้เพิ่มจำนวนขึ้น…แน่นอนว่าพวกมันก็เป็นเหยื่อรสเลิศของแมวตามห่วงโซ่อาหารด้วยเช่นกัน

พวกแมวจึงเริ่มเข้ามามีบทบาทช่วยกำจัดพวกสัตว์ฟันแทะเหล่านี้ เกิดเป็นความสัมพันธ์แบบต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ระหว่างแมวและมนุษย์ ยิ่งมีจำนวนเหยื่อหรือบรรดาแหล่งอาหารของแมวชุกชุมมากเท่าใด ก็ยิ่งดึงดูดแมวตัวอื่น ๆ เข้ามาเพื่อหาอาหารมากขึ้นเท่านั้น …เพราะชีวิตคือการอยู่รอด

การรวมกลุ่มของแมวจึงเกิดขึ้นเมื่อ ‘มีทรัพยากรเพียงพอ’

การจับสัตว์มีอาณาเขตของใครของมัน-นักล่าผู้โดดเดี่ยวอย่างแมวมาอาศัยอยู่ร่วมกันนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องมี ‘ทรัพยากร’ อย่างเพียงพอนั่นเอง ยิ่งเป็นกระบะทรายที่เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ใช้บ่งบอกอาณาเขตด้วยแล้ว หากมีจำนวนไม่เพียงพออาจทำให้เกิดปัญหาพฤติกรรม อย่างแมวทำธุระนอกกระบะทรายซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยที่สุด หรือปัญหาเรื่องการแย่งชิงอาณาเขตตามสัญชาตญาณแบบแมว ๆ ก็เป็นได้

"แมวที่อยู่ในกลุ่มสังคมเดียวกันคืออะไร"

คือ แมวที่ยอมรับกันและกัน มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน สามารถอยู่ร่วมกันภายในอาณาเขตเดียวกันได้ โดยมีการสร้างกลิ่นร่วมกันของกลุ่ม

แมวที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ควรมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวกต่อกัน เช่น เอาตัวถูกัน เอาจมูกชนกัน เลียให้กันและกัน เล่นกันได้โดยไม่มีการขู่หรือการทะเลาะกัน ไม่มีการหวงทรัพยากรระหว่างกันและกัน แมวทุกตัวในกลุ่มสังคมเดียวกันควรสามารถเข้าถึงทรัพยากรได้อย่างอิสระ ในกรณีนี้สามารถใช้จำนวนกลุ่มแมวมาแทน N ในสมการได้

อย่างไรก็ตาม หากมีแมวหลายตัวอยู่ในกลุ่มสังคมเดียวกัน เราขอแนะนำว่าให้มีจำนวนกระบะทรายอย่างน้อย 2 ตัวต่อ 1 กระบะ เนื่องจากแมวเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างรักความสะอาดมาก ไม่ชอบการเข้าห้องน้ำและการปล่อยอาณาเขตซ้ำทับกับใคร หากจำนวนกระบะทรายมีน้อยเกินกว่าจำนวนแมวมาก อาจทำให้กระบะทรายเต็มอย่างรวดเร็ว และสกปรก ทำให้แมวไม่ยอมใช้งาน ทำให้มีปัญหาพฤติกรรมตามมา หรือแมวอาจกลั้นอุจจาระปัสสาวะจนนำมาสู่ความเจ็บป่วยได้

ตัวอย่าง: มีแมวจำนวน 6 ตัวที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันตลอด อาศัยอยู่ในกลุ่มสังคมเดียวกัน ดังนั้นควรมีกระบะทรายอย่างน้อย 3 กระบะนั่นเอง

ข้อควรระวัง – การมีสมาชิกแมวหลายตัวอยู่รวมกัน แม้จะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่หากวันใดเกิดปัญหาให้ผิดใจกันขึ้นมาอาจนำมาสู่ปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้ หากไม่เป็นการยากลำบากจนเกินไป เราก็ยังขอแนะนำให้คุณมีจำนวนกระบะทรายมากกว่าจำนวนแมวอย่างน้อย 1 กระบะเสมอ…การป้องกันดีกว่าการแก้ไขเสมอ เพราะหากแมวเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วจะแก้ไขได้ค่อนข้างยาก

ขนาด กระบะทราย ควรเป็นอย่างไร?

ขนาดกระบะทรายที่เหมาะสม ควรมีขนาดใหญ่พอที่แมวจะสามารถหมุนตัว-กลับตัวได้อย่างสะดวกสบาย

    • ขนาด ความกว้างขั้นต่ำ กระบะทราย = ความยาวตั้งแต่หัวจนถึงโคนหางของแมว
    • ขนาด ความยาวขั้นต่ำ กระบะทราย = 1.5 เท่า ของความยาวตั้งแต่หัวถึงโคนหางของแมว หรือ ตั้งแต่หัวถึงปลายหาง (วัดขณะหางแมวขนานกับพื้น)

ตำแหน่งการวาง...สำคัญไหม?

พื้นฐานพฤติกรรมของแมว แมวจะชอบทำกิจกรรมในบริเวณที่เจ้าของอยู่อาศัยและใช้งานบ่อยที่สุด ทำให้พวกมันสบายใจ รู้สึกปลอดภัย รู้สึกเชื่อมโยงกับเจ้าของ ตำแหน่งที่เหมาะสมในการวางกระบะทรายมากที่สุดจึงเป็นบริเวณที่เจ้าของใช้ชีวิตเป็นส่วนใหญ่ เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องทำงาน เป็นต้น

ควรหลีกเลี่ยงการวางกระบะทรายใกล้กับสิ่งของที่ส่งเสียงรบกวน หรือเครื่องจักรที่มักจะทำงานอยู่บ่อย ๆ เช่น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เพราะอาจทำให้แมวตกใจและมีประสบการณ์ไม่ดีกับการเข้ากระบะทราย จนอาจทำให้แมวไม่ยอมใช้กระบะทรายอีกเลยแม้จะย้ายที่แล้วก็เป็นได้

ห้องน้ำของมนุษย์ก็เป็นอีกจุดที่ไม่ควรวางกระบะทราย นอกจากจะมีอากาศถ่ายเทไม่ดี มีความชื้นปริมาณมากแล้ว ยังทำให้การเข้าถึงลำบาก หากมนุษย์ใช้ห้องน้ำเป็นเวลานานหรือใช้ในช่วงเวลาเดียวกับที่แมวต้องการใช้ ก็จะทำให้แมวไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งอาจนำมาสู่การปัสสาวะ-อุจจาระนอกกระบะทรายได้เช่นกัน

หากคุณมีกระบะทรายหลายกระบะ ก็ ควรวางทุกกระบะแยกกัน ทั้งหมด เพื่อกระจายทรัพยากรให้แมวทุกตัวสามารถเข้าถึงได้ง่าย การวางกระบะทรายหลายกระบะรวมกันในจุดเดียวแมวจะมองว่านั่นคือกระบะทรายขนาดใหญ่อันเดียวเท่านั้น กลายเป็นว่าไม่ใช้ประโยชน์จากการมีกระบะทรายจำนวนมากเลย

หากบริเวณบ้านมีพื้นที่กว้างขวางหรือมีหลายชั้น ก็ควรวางกระจายทุกชั้นในทุกบริเวณที่แมวใช้ชีวิต เพื่อให้แมวเข้าถึงและใช้งานได้สะดวก และเป็นการกระจายอาณาเขตให้ทั่วบริเวณ​ ซึ่งจะช่วยให้แมวรู้สึกสบายใจ รู้สึกปลอดภัย ส่งเสริมลักษณะตามสัญชาตญาณของแมวได้ดีอีกด้วย

คนยังไม่อยากวิ่งขึ้น-ลงไปเข้าห้องน้ำไกล ๆ เลยใช่ไหม ?

ฝึกแมวเข้า กระบะทราย อย่างไร?

    1. นำมูลของแมวไม่ว่าจะเป็นอุจจาระหรือปัสสาวะไปใส่ไว้ในกระบะทราย
    2. กล่าวชม และให้รางวัลเมื่อแมวแสดงท่าทีสนใจกระบะทรายหรือเมื่อแมวเข้าไปใช้งาน เพื่อสร้างแรงจูงใจในการใช้
    3. หากเป็นลูกแมว อาจใช้วิธีอุ้มเข้ากระบะทรายเพื่อให้ก้นจุ่มลงไปในทรายได้ แต่ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้กับแมวที่โตแล้ว อาจเป็นการทำให้แมวระแวงและไม่ไว้ใจมากกว่าเดิม

แมวส่วนใหญ่สามารถเข้ากระบะทรายได้เองโดยสัญชาตญาณ หากแมวของคุณไม่ยอมใช้กระบะทรายเองแล้วล่ะก็ ให้ลองกลับไปตรวจสอบปัจจัยทั้งหมดอีกครั้ง ทั้งลักษณะกระบะทราย จำนวน ตำแหน่งที่วาง ความสะอาด ประเภททรายแมว ความหนาของทรายแมว กลิ่น และความสัมพันธ์ระหว่างแมว-แมวด้วยกัน และพาแมวพบสัตวแพทย์เพื่อหาความเจ็บป่วยทางกายด้วย เพราะเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยและมักจะถูกมองข้าม

อย่าลืมว่าการปัสสาวะ-อุจจาระ เป็นการสื่อสารอย่างหนึ่งของแมว หากแมวของคุณมีปัญหากับการเข้ากระบะทรายอยู่ละก็…แสดงว่าแมวเขากำลังพยายามบอกอะไรบางอย่างกับคุณอยู่ !

วิธีทำความสะอาดกระบะทราย

    • ควรตักของเสียอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง รักษาความสะอาดสม่ำเสมอ
    • เปลี่ยนทรายแมวใหม่ทั้งกระบะอย่างน้อยทุก 2-4 สัปดาห์ หรือบ่อยกว่านี้หากแมวใช้บ่อย …อย่าเสียดายทรายแมว !
    • คำแนะนำจาก AAHA (American Animal Hospital Association) เพียงแช่กระบะทรายในน้ำอุ่นอุณหภูมิ 65-70 องศาเซลเซียสขึ้นไปเป็นเวลา 3-5 นาที จากนั้นใช้ฟองน้ำถู แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ก็สามารถกำจัดสิ่งสกปรกและฆ่าเชื้อโรคได้อย่างเพียงพอ สามารถใช้สบู่อ่อนหรือน้ำยาล้างจานร่วมด้วยได้

× ไม่ ควรใช้สารเคมี สารฟอกขาว หรือน้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อน นอกจากจะเพิ่มโอกาสมีสารเคมีตกค้างแล้ว ยังมีกลิ่นฉุนรบกวนแมว อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แมวไม่ยอมใช้กระบะทรายอีกเลยก็ได้ นอกจากนี้สารเคมีเหล่านี้ยังสามารถทำปฏิกิริยากับปัสสาวะที่ตกค้าง เกิดเป็นสารพิษที่มีอันตรายต่อร่างกายได้อีกด้วย

สรุป

กระบะทรายแมวถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตของแมว เจ้าของจึงควรใส่ใจ เลือกประเภทของกระบะทรายที่เหมาะกับแมวของเรา โดยคำนึงถึงข้อดีและข้อเสีย มีจำนวนกระบะทรายอย่างเพียงพอ มีการจัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสม รวมถึงมีการรักษาความสะอาดอยู่เป็นประจำ แมวเป็นสัตว์ที่ละเอียดอ่อนมาก ทุกปัจจัยแม้เพียงเล็กน้อยย่อมส่งผลถึงกันและมีความสำคัญต่อการแสดงออกของแมวอย่างยิ่ง หากข้อใดข้อหนึ่งบกพร่องไปก็อาจทำให้แมวมีปัญหาพฤติกรรมหรือส่งผลต่อสุขภาพตามมาได้

” สนใจเข้าพักกับ โรงแรมแมว ของเราอยู่หรือเปล่า !? “

© All Rights Reserved.